คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น Faculty of Economics Khon Kaen University

econ@kku.ac.th
Tel :

ERP (Enterprise Resource Planning) และ SCM (Supply Chain Management) มีรากฐานการพัฒนาย้อนไปได้ใน ทศวรรษ 1960s เมื่อมีการนำคอมพิวเตอร์มาใช้เป็นครั้งแรกเพื่อแก้ปัญหาโจทย์ทางธุรกิจ ทำให้บริษัทยักษ์ใหญ่ทางด้านคอมพิวเตอร์ต้องกระโดดลงมาพัฒนา Software applications เพื่อขายควบกับ Computer hardware ให้ง่ายขึ้นและครบวงจรมากขึ้น

มีการพัฒนาโปรแกรม MRP (Material Requirements Planning) เสนอต่อธุรกิจประเภทผลิตเพื่อให้จัดการวัตถุดิบได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น แต่โปรแกรมก็ยังอยู่ในลักษณะพื้นฐาน (Simple processing logic) และเน้นไปที่การจัดการ Input, output reports โดยรวมพบว่าโปรแกรมยังไม่มีลักษณะที่ซับซ้อน

คำถามสำคัญในการพัฒนาโปรแกรม MRP ในขณะนั้นก็คือ

1) วัตุดิบอะไรบ้างและปริมาณเท่าใดที่ต้องเตรียมเพื่อให้การผลิตเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
2) เราจะจัดหาวัตถุดิบตามที่ต้องการดังกล่าวได้อย่างไร

แม้ว่าจะเป็นคำถามที่ดูเหมือนง่าย แต่ต้องพัฒนาโปรแกรมในการรวบรวมข้อมูลInput การคำนวณ และOutput reports พอสมควร ซึ่งเมื่อมองย้อนไปการที่มี Hardware และ Software applications ดังกล่าวก็ถือว่าโดนใจบริษัทที่มีลักษณะเป็น Production business เป็นอย่างยิ่งในขณะนั้น

อย่างไรก็ตามการบริหารจัดการวัตถุดิบเป็นเพียงส่วนหนึ่งของการวางแผนการผลิตเท่านั้น ในปี1984 Oliver Wright จึงมีการพัฒนา MRP II และใช้ชื่อใหม่ว่า Manufacturing resource planning และมีการพัฒนา Information system ใหม่สำหรับ MRP II ซึ่งครอบคลุม ทั้งการวางแผนบริหารจัดการวัตถุดิบ การบริหารกำลังการผลิต การบริหารออร์เดอร์การผลิต การจัดซื้อ การบริหารการขาย การบริหารต้นทุนและการวิเคราะห์ข้อมูลการผลิต เป็นต้น

ERP ถูกพัฒนาขึ้นต่อมาอีกเพื่อเติมเต็มให้โปรแกรม MRP II โดยเฉพาะให้สามารถรองรับทั้งธุรกิจที่ผลิตและธุรกิจอื่นๆ เช่นธุรกิจบริการ และเติมโปรแกรมสำหรับ Core functionsอื่นๆ ที่เหลือเช่น ด้านบัญชีการเงิน การควบคุมภายใน การจัดการทรัพยากรบุคคล เป็นต้น

ชื่อ ERP เริ่มใช้กันมากขึ้นตั้งแต่ทศวรรษ 1990 โดยบริษัทที่พัฒนา Business software ที่มีชื่อเสียง เช่น SAP, PeopleSoft, Baan เป็นต้น และเมื่อเข้าสู่ยุค ERP แล้ว MRP II ก็ค่อยๆเสื่อมความนิยมไป และกลายเป็นส่วนหนึ่งของระบบ ERP

อย่างไรก็ดี ระบบ ERP ก็ยังมีจุดอ่อนเพราะมุงไปบริหารจัดการระบบภายในธุรกิจเท่านั้น ในขณะที่ในกระบวนการทำธุรกิจมีระบบที่จะต้องเชื่อมต่อกับภายนอกด้วย เช่น Suppliersต่างๆ ERP จึงถูกพัฒนาต่อเพิ่มเติมโดยคำนึงถึงประเด็นที่จะช่วยให้ Supply chain management มีประสิทธิภาพเชื่อมต่อกับระบบภายในได้ ERP ในยุคปัจจุบันจึงมีระบบและโปรแกรมที่ถูกออกแบบได้ครบวงจรได้มากขึ้น อาจเรียกได้ว่าความก้าวหน้าเพิ่มเติมนี้ กำลังเข้าสู่ยุค Advanced planning and scheduling (APS)

ที่มา : Enterprise Resource Planning and Supply Chain Management, by Karl E. Kurbel, 2013

บทความโดย
รศ.(พิเศษ) ดร.กฤษฎา เสกตระกูล
ที่ปรึกษา คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น